OPEN CALL
LOGIN
REGISTER
FEATURED WORKS
ARTISTS
EXHIBITIONS
E-MAGAZINES
THE GALLERY
Pink, Black & Blue
January 28, 2023
(Scroll down for English version)

อันที่จริงผม (อัครา นักทำนา : ภัณฑารักษ์) เคยได้ยินชื่อ Pink, Black & Blue มาก่อน คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นชื่องานเก่าของพี่มานิตเอง งานนั้นมีชื่อว่า Pink White Blue ที่มีภาพของเด็กในชุดนักเรียนที่กำลังถูกคูณครูพิงค์แมนถ่ายทอดความรู้ (หรือครอบงำ) อะไรบางอย่าง มีความหมายโดยตีความว่า สีแดงที่เป็นสีของรัฐถูกแทนที่ด้วยสีชมพู (ที่กล่าวได้ว่าคือ พิงค์แมน นั่นเอง) สีขาวคือสีของเด็กที่บริสุทธิ์ทั้งด้านความคิดและเสรีภาพ ขนาบข้างด้วยน้ำเงินคือสีที่เป็นตัวแทนของสถาบันอย่างที่เราทราบๆกัน นั่นเลยทำให้ผมรู้สึกถึงเรื่องของ “สี” ที่มีอยู่คู่กับงานภาพถ่ายของพี่มานิตมาตลอด



นิทรรศการครั้งนี้พี่มานิตนำสีต่างๆกลับมาขยายความและถ่ายทอดในความหมายที่ต่างออกไป, Pink: ก็มาถึงบทสรุปของชีวิตพิงค์แมน, Black: (When I Was Twenty) ฉายภาพกลับไปเมื่อเริ่มต้นทำงานภาพถ่าย และ Blue: (I Saw A Blue Wing) กระโดดข้ามมาถึงโลกปัจจุบันที่ราวกับวิญญาณของพิงค์แมนกำลังท่องเที่ยวโลกหลังความตายอย่างสนุกสนานผ่านเลนส์กล้องของพี่มานิตเองในรูปแบบของงาน Street Photography

ทั้งสามงานหมุนวนเชื่อมต่อกัน บรรยายความเป็นมาเป็นไปโดยมีความตายของพิงค์แมนเป็นสะพานส่งต่อความคิด-ปรากฏการณ์ให้แผ่กระจายไปรอบๆศิลปินและผู้ชม



PINK
พิงค์แมน, ชายผู้สำรวจเรื่องสามัญ-พิศดารในสังคมแบบไทยไทย และสังคมโลก,
ถึงวาระสุดท้ายของเขา?


ภาพข่าวเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 อันแสนสยดสยองที่มี พิงค์แมนยืนยิ้มเยาะอยู่ข้างๆเป็นเหมือนภาพจำแรกๆที่มีต่องานพิงค์แมน ราวกับ (เขาคนนั้น) ผู้ที่อยู่เบื้องหลังกำลังสวมใส่ชุดสีชมพูสดใส ถอดกายทิพย์ท่องทะยานผ่านเหตุการณ์ต่างๆในวันนั้นร่วมเป็นประจักต์พยานของความน่าสะอิดสะเอียนที่ส่งออกมาจากผู้มีอำนาจที่ต้องการกำจัดและขจัดผู้คนฝ่ายตรงข้ามไม่ต่างจากหมากฝรั่งที่ติดอยู่ใต้พื้นรองเท้า ภาพนั้นมันส่งผลสะเทือนไม่เฉพาะแค่ผู้พบเห็นทั่วไป แต่ได้แสดงตัวอย่าง-วิธีการที่สำคัญ, ผลักดันการทำงานศิลปะภาพถ่ายร่วมสมัยของไทยให้ก้าวพ้นไปจากขนบจารีตเดิมๆที่ต้องพินอบพิเทาต่อกรอบสมมติที่คนเก่าก่อนก่อร่างไว้







พิงค์แมนเดินทางเยือนสถานที่และเรื่องราวต่างๆมาตลอดระยะเวลาเกือบสามทศวรรษที่อาจเท่าๆกับช่วงชีวิตของคนๆหนึ่งที่ผ่านร้อนผ่านหนาวและสะท้อนความเป็นไปหลากหลายเรื่องราว ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า พิงค์แมน คือตัวแทนอันแสนจะนามธรรมของสิ่งที่อยู่เบื้องหลังหลายๆปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมโลก เขาถูกผลิตขึ้นมาให้มองเห็นจับต้องได้ มีชีวิตราวกับคนจริงๆ เติบโต ยิ่งใหญ่ แก่ชรา และท้ายที่สุดก็จบชีวิต บรรจุอยู่ภายในถุงใส่ศพสีชมพูชอคกิ้งพิงก์สีโปรดของเขาข้างถนนกลางกรุงนิวยอร์ก

คำถามคือ ความตายของพิงค์แมน ที่ดูเหมือนเขาจะไม่มีวันตายครั้งนี้บอกอะไรกับพวกเรา, กับสังคม, กับโลก, หรือกระทั่งพิงค์แมนอาจกำลังหลุดพ้นไปเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใหม่หรืออย่างไร? คำตอบเหล่านี้อาจกำลังลอยละล่องในอากาศที่พวกเรากำลังสูดดมเข้าไปพร้อมฝุ่น PM 2.5 หรือลอยตลบอบอวลอยู่ในควันไฟสงครามยูเครน-รัสเซีย ที่แสนเหลือเชื่อว่ากำลังเกิดขึ้นในยุคของพวกเรา

BLACK
การก่อกำเนิด, พิงค์แมนในบึงน้ำสีดำ


การทดลองที่หลากหลายราวกับประตูที่กำลังเปิดออกทุกบาน เป็นเครื่องมือชั้นดีรองรับความคิดที่พุ่งทะยานไปพร้อมๆกับความกล้าบ้าบิ่นในวัยหนุ่มสาว วัยที่ทุกๆอย่างเป็นไปได้ด้วยพลังแห่งฮอร์โมนและความคิดสุดโต่ง When I Was Twenty เป็นหนึ่งในหลักฐานอันเด่นชัดที่ราวกับว่าได้มาสบตากับพิงค์แมนที่กำลังซุกตัวหลบซ่อนเสื้อสูทสีชมพูและรถเข็นช็อปปิ้งไว้หลังบรรดาภาพถ่ายขาวดำดิบดาร์คนี้อย่างแนบเนียน 









When I Was Twenty เต็มไปด้วยเรื่องลับส่วนตัวอันแสนมืดหม่นปะปนไปด้วย แมกไม้น่าขนลุก บึงน้ำ ผู้ชาย ความตาย เด็กทารก ทีวี ราวกับพวกมันสื่อสารถึงกันด้วยสัญญะลึกลับและแรงกดดันบางอย่างที่อัดแน่นไปด้วยความคิดอันแหลมคม ความเชื่อ อุดมการณ์ที่ใกล้จะถูกปลดปล่อยในกาลข้างหน้า, บ่มเพาะ รอเวลา..

เมื่อเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 1997 เป็นเชื้อปะทุปลุกให้พิงค์แมนตื่นขึ้นและแหวกว่ายขึ้นมาจากบึงน้ำดำมืดด้วยชุดสูทสีชมพูชอคกิ้งพิงค์และรถเข็นตัวโปรดของเขา ยืนยิ้มเย้ยหยันให้กับความพังพินาศที่กำลังเกิดขึ้นและป่าวประกาศถึงการมาถึงของยุคชายร่างท้วมสูทสีชมพูบนกองซากปรักหักพังจากความละโมบโลภมาก

BLUE
กายทิพย์สีฟ้าของพิงค์แมนในโลกยุคโลกาภิวัฒน์


ความวุ่นวายต่างคนต่างคิดในโลกยุคใหม่ ความรวดเร็วของการสื่อสาร ความรู้ไร้ขีดจำกัด ผู้คนในโลกพหุ/อนุวัฒนธรรม การเลื่อนไหลของเพศสภาพ ความฉลาดล้ำของ AI ฯลฯ สิ่งเหล่านี้หลอมรวมอยู่ด้วยกันอย่างสุดโกลาหล ไม่รู้ว่าเรื่องพวกนี้สร้างความปวดหัวให้กับพิงค์แมนบ้างหรือเปล่า แต่งานชุด I Saw A Blue Wing เป็นดังกายทิพย์สีฟ้าของมิสเตอร์พิงค์แมนที่เฝ้ามองโลกยุคใหม่ผ่านกล้องตัวเล็กของพี่มานิต, ท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของ Covid-19 และน่าจะเป็นคาบเวลาเดียวกันกับการจากไปของพิงค์แมนอย่างน่าประหลาดใจ

ฉากทัศน์ของเมืองใหญ่กับผู้คนชายขอบ ผู้คนแต่งตัวราวกับงานแฟนซี งานเลี้ยงไฮโซ วัฒนธรรมเก่าที่ถูกรื้อออกมาทำปลอมให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม ฯลฯ เรื่องเหล่านี้ถูกหยิบออกมาแสดงอย่างน่าสนใจที่ไม่ต่างจากงานชุดที่พิงค์แมนออนทัวร์ไปยังที่ต่างๆบนโลก ซึ่งแทนที่เราจะเห็นพิงค์แมนในฉากภาพ กลับเป็นการมองออกมาจากดวงตาของเขา, เรา (ผู้ชม) ต่างกำลังนั่งอ้าปากค้างอยู่ข้างหลังดวงตาของพิงค์แมนเหมือนกับหนังเรื่อง Being John Malkovich สอดส่องดูความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของสังคมโลกที่ไม่มีทางไล่ทัน

พวกเราเองก็น่าจะผสานและกลายร่างเป็นพิงค์แมนในท้ายที่สุด











----
Pink, Black & Blue
นิทรรศการภาพถ่ายเดี่ยว โดย มานิต ศรีวานิชภูมิ
ภัณฑารักษ์ : อัครา นักทำนา

11 กุมภาพันธ์ – 9 เมษายน 2566
HOP PHOTO GALLERY
ชั้น 3 โซน MUNx2 ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์

งานเปิดนิทรรศการ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566
เวลา 17:00 น. เป็นต้นไป
----

I (Akkara Naktamna : Curator) have heard ‘Pink, Black & Blue’ before, which seems to be the title of Manit's old work. Actually it’s ‘Pink White Blue’ depicting children in school uniforms being taught or maybe possessed by Pink Man. Red (state) is replaced with pink (Pink Man actually), White is children who are pure and free, and Blue is the color of monarchy. That's why I feel that colors always existed in Manit's works for a long time.

Once again Manit brings colors back to expand and express them differently. In this time; ‘Pink’ is the conclusion of Pink Man's life, ‘Black’ is flashing back to the beginning, and ‘Blue’ is jumping to the present day like Pink Man’s spirit wandering the afterlife through Manit’s small camera in Street Photography.

Pink, Black & Blue are connected, narrating the stories by using the death of Pink Man as a bridge to pass on ideas and phenomena spreading around the artist and audiences.

PINK
Pink Man, a man who explores the ordinary and bizarre in Thai-Thai and global society,
Is he really dead?


A horrifying news photograph of October 6, 1976 with a smirking Pink Man standing next to it was like the first memory of Pink Man. It was as if a wire-puller was wearing a bright pink suit who was taking off his spirit soaring through that day, witnessing the abominations emanating from the power that wished to eliminate people like chewing gum stuck under the shoes. That image had a shocking effect not only on the general audiences, but showed a significant example that pushed Thai contemporary photography to move away from the old traditional approaches.

For nearly three decades, Pink Man has visited places and stories that could be as much as a person's lifetime through many ups and downs and reflecting on many stories. Undeniably, Pink Man is an abstract representation of what is behind many phenomena that occur in world society. He was created to be tangible, living like a real person, growing up, getting old and eventually dead. His body was placed in his favorite shocking pink corpse bag on the streets of New York City.

The question is, what does Pink Man's death, who seems to be immortal, tell us? Is Pink Man going to be a new Buddha? The answers may be floating in the air we are breathing in PM 2.5 or floating in the smoke of the Ukraine-Russia war that is taking place in our time.

BLACK
The beginning, Pink Man in a black swamp


Various experiments, like every opening door, are a great tool for the ideas that soar with the daringness of youth. The age when everything is possible with the power of hormones and extreme thinking. When I Was Twenty is one striking evidence that it seems to have met the Pink Man's eyes, subtly hiding his pink suit and shopping cart behind these black and white photos.

'When I Was Twenty' is full of dark personal stories, intermingled with creepy plants, swamps, men, death, babies, TV. Seemingly they communicate with each other through mysterious symbols and pressures, packed with sharp ideas, beliefs, and ideologies that are about to be released in the near future; Incubating and waiting.

When ‘Tom Yum Kung’ Crisis hit in 1997, it woke up Pink Man; he swam out of a black swamp in his pink suit and favorite shopping cart. Standing mockingly smirked at the devastation and heralded the arrival of the pink-suited chubby man atop a heap of greed.

BLUE
Pink Man's blue spirit in a globalized world.


Chaos of numberous opinions, speed of communication, limitless knowledge, multicultural-subcultural, gender fluidity, AI intelligence, etc fuse together in complete chaos. Don't know if these things cause Pinkman a headache or not but ‘I Saw A Blue Wing’ is like the blue spirit of him watches the new world through Manit's small camera and travels to various places before the outbreak of Covid-19. It is quite surprising that it was around the same time as Pink Man's departure.

Landscapes of big cities with marginalized people, people dressed up like fancy fairs, hi-so parties, traditional cultures faked for tourists, etc. are shown interestingly, just like a photo series of 'Pink Man On Tour' in which Pink Man travels to various places. Instead of seeing Pink Man in the scene, but looking through his eyes. We (the audience) are sitting behind Pink Man's eyes agape as in ‘Being John Malkovich’ movie watching the rapid change of world society which never catches up with.

We'll merge and turn into Pink Man eventually.
----
Pink, Black & Blue
A solo photographic exhibition by Manit Sriwanichpoom
Curated by Akkara Naktamna

11 FEBRUARY - 9 APRIL 2023
HOP PHOTO GALLERY
3rd floor, MUNx2, Seacon Square Srinakarin.

Opening reception date : 11 February 2023
Beginning at 5 PM